โอนเงินเข้าบัญชีให้แล้ววันนี้ 3 กลุ่ม ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 68

10 ก.พ. 2568 เวลา 08:31 น.
เงินเข้าวันนี้ เงินเยียวยา 3 กลุ่มเปราะบาง ซึ่งได้แก่ เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด , เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ และ เบี้ยผู้พิการ ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งรัฐบาลจะโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีทุกวันที่ 10 ของเดือน แต่หากตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเสาร์-อาทิตย์ จะทำการโอนให้ล่วงหน้าก่อนในวันเวลาราชการ โดยในงวดเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เงินโอนเข้าวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เช็กแต่ละกลุ่มได้เงินกี่บาท ซึ่งมีดังนี้

1. เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด โอนเงินเข้าบัญชีวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

โครงการเงินอุดหนุน เพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด โดยรัฐบาลจะช่วยแบ่งเบาภาระในการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดของพ่อแม่ผู้ปกครอง โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ สมาชิกครัวเรือนต้องมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี พ่อแม่จะได้รับเงินอุดหนุนบุตร ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี จำนวน 600 บาทต่อคนต่อเดือน และไม่จำกัดจำนวนบุตร

สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่คุณสมบัติตรงเงื่อนไข สามารถยื่นลงทะเบียนรับเงินอุดหนุนบุตร 600 บาท ได้ตลอด โดยติดต่อลงทะเบียนได้ในพื้นที่ที่เด็กแรกเกิดและผู้ปกครองอาศัยอยู่จริง ได้แก่

กรุงเทพมหานคร ลงทะเบียนได้ที่สํานักงานเขต

เมืองพัทยา ลงทะเบียนได้ที่ศาลาว่าการเมืองพัทยา

ส่วนภูมิภาค ลงทะเบียนได้ที่องค์การบริหารส่วนตําบล หรือเทศบาล

ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น เงินเด็ก โดยผู้ปกครองต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนผ่าน แอปพลิเคชัน ThaID ของกรมการปกครองก่อน เมื่อตรวจสอบสิทธิผ่านแล้ว จะได้รับเงินมีผล ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน

ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบสถานะสิทธิเงินอุดหนุนบุตรได้ 3 ช่องทาง ดังนี้

เว็บไซต์กรมกิจการเด็กและเยาวชน

แอปพลิเคชัน ทางรัฐ

แอปพลิเคชัน เงินเด็ก

2. เงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ โอนเงินเข้าบัญชีวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

 

เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ คือสวัสดิการที่รัฐมีไว้เพื่อช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือ และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิตในแต่ละเดือน รายละ 600-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้

อายุ 60-69 ปี ได้รับ 600 บาทต่อเดือน

อายุ 70-79 ปี ได้รับ 700 บาทต่อเดือน

อายุ 80-89 ปี ได้รับ 800 บาทต่อเดือน

อายุ 90 ปี ขึ้นไป ได้รับ 1,000 บาทต่อเดือน

คุณสมบัติของผู้มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

1. มีสัญชาติไทย

 

2. เป็นผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ยังไม่เคยลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ

 

3. เป็นผู้ที่จะมีอายุครบ 60 ปี โดยเป็นผู้ที่เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509 ลงทะเบียนรับเงินประจำปีงบประมาณ 2569

4. ไม่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่

ผู้รับเงินบํานาญ เบี้ยหวัด บํานาญพิเศษหรือ เงินอื่นใดในลักษณะเดียวกัน

ผู้สูงอายุที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของรัฐหรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ผู้ได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทน รายได้ประจํา หรือผลประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นที่รัฐหรือองค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่นจัดให้เป็นประจํา

ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ได้เมื่อไหร่

กรณีมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ แต่ยังไม่เคยลงทะเบียน

ลงทะเบียนได้ตั้งแต่ เดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 และเดือน มกราคม – กันยายน 2568 จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป (ไม่มีจ่ายย้อนหลัง)

กรณีจะอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ ในปีงบประมาณ 2569 (เกิดก่อนวันที่ 2 กันยายน 2509)

ลงทะเบียนเพื่อยืนยันสิทธิขอรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุได้ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน 2567 และเดือน มกราคม – กันยายน 2568

ผู้ที่ลงทะเบียนจะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือนถัดไปจากเดือนที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ เช่น เกิดเดือน กุมภาพันธ์ จะได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุในเดือน มีนาคม เป็นเดือนแรก

หลักฐานการลงทะเบียนรับสิทธิ

1. กรณีลงทะเบียนด้วยตนเอง

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 1 ชุด

 

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝาก (ออมทรัพย์) จำนวน 1 ชุด

2. กรณีผู้สูงอายุไม่สามารถไปลงทะเบียนได้ด้วยตัวเอง ต้องเตรียมเอกสารเพิ่มคือ

หนังสือมอบอำนาจ (ยื่นแบบฟอร์มให้ติดต่อเจ้าหน้าที่โดยตรง)

สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สำเนาทะเบียนบ้านของผู้รับมอบอำนาจ จำนวน 1 ชุด

สถานที่ในการขึ้นทะเบียน

จุดบริการ ใน กทม. สำนักงานเขต 50 เขต

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.)

อบต. (องค์การบริหารส่วนตำบล) หรือเทศบาลที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน

สำหรับการรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุนั้น ผู้สูงอายุสามารถดำเนินการได้ด้วยตัวเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการแทน

 

3. เบี้ยผู้พิการ โอนเงินเข้าบัญชีวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568

 

เบี้ยผู้พิการ ได้รับคนละ 800-1,000 บาท ตามเกณฑ์อายุ ดังนี้

ผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี จะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อเดือน

ผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป จะได้รับเงิน 800 บาทต่อเดือน

ทั้งนี้ หากเป็นคนพิการอายุ 18 ปีขึ้นไป ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ก็จะสามารถกดเพิ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจนอีก 200 บาทต่อเดือน รวมได้รับรายละ 1,000 บาทต่อเดือน

ผู้พิการสามารถติดต่อขึ้นทะเบียนคนพิการ ได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ตั้งอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดในทุกจังหวัด) หรือพื้นที่กรุงเทพฯ ติดต่อได้ที่ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ , ศูนย์บริการคนพิการกรุงเทพมหานคร