พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเจิมเรือหลวงช้าง ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยมี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือพลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชน เฝ้า ฯ รับเสด็จ
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศบูชา พระพุทธนวราชบพิตร ทรงศีล พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ทูลเกล้า ฯ ถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รองศาสตราจารย์ วัชรีวรรณ ทองสะอาด ภริยาผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ทูลเกล้า ฯ ถวายสูจิบัตรแต่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และพลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ กราบบังคมทูลรายงานความเป็นมาในการต่อเรือหลวงช้าง และกราบบังคมทูลเชิญเสด็จ ฯไปทรงประกอบพิธีเจิมเรือหลวงช้าง
จากนั้นเสด็จขึ้นเรือหลวงช้าง ทรงทำความเคารพธงราชนาวีทางท้ายเรือ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้พลเรือตรี อารยะ สิงหเสมานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ กราบบังคมทูลรายงาน นาวาเอก ธีรสาร คงมั่น ผู้บังคับการเรือหลวงช้าง กราบบังคมทูลรายงานและกราบบังคมทูลเชิญเสด็จ ฯ รับการถวายความเคารพยิงสลุตหลวง
ต่อมาเสด็จขึ้นแท่น ณ พระสุจหนี่ รับการถวายการยิงสลุตหลวง ทรงรับการถวายความเคารพจากเรือหลวงปิ่นเกล้า ยิงสลุตหลวงจำนวน ๒๑ นัด เสร็จแล้วเสด็จ ฯ ไปยังบริเวณหัวเรือ เรือหลวงช้าง ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิมที่แผ่นป้ายชื่อเรือหลวงช้าง ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ลำนี้ ตามชื่อของหมู่เกาะช้างในจังหวัดตราด ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของกองทัพเรือ ที่ได้กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อเรือรบ ตามประเภทของเรือ โดยในส่วนของเรือยกพลขึ้นบก กำหนดให้ตั้งชื่อตามเกาะต่าง ๆ ในประเทศไทย จากนั้นทรงคล้องพวงมาลัยบริเวณแผ่นป้ายชื่อเรือหลวงช้าง แล้วเสด็จออกจากบริเวณหัวเรือ ไปยังห้องประทับรับรอง ทรงลงพระปรมาภิไธย และทรงลงพระนามาภิไธย ในสมุดที่ระลึก
จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปยังห้องโถงนายทหาร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ น้อมเกล้า ฯ ถวาย เรือหลวงช้าง (จำลอง) แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ น้อมเกล้า ฯ ถวายลองลูกปืนยิงสลุตหลวงนัดแรก แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พลเรือตรี อารยะ สิงหเสมานนท์ ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการกองเรือยุทธการ ทูลเกล้า ฯ ถวายพระมาลาปักชื่อเรือหลวงช้าง แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และนาวาเอก ธีรสาร คงมั่น ผู้บังคับการเรือหลวงช้าง เข้าเฝ้า ฯ ทูลเกล้า ฯ ถวายพระมาลาปักชื่อเรือหลวงช้าง แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี แล้วทรงฉายพระบรมฉายาลักษณ์ร่วมกับ สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินีและนายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ จำนวน ๑ ชุด
เวลา ๑๗.๔๕ น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จฯไปยังห้องสะพานเดินเรือทอดพระเนตรภายในห้องสะพานเดินเรือ หรือ ห้องควบคุมการเดินเรือ ซึ่งมีไว้สำหรับควบคุมการเดินเรือ เพื่อให้เรือสามารถเดินทางไปได้อย่างปลอดภัยและถึงที่หมายอย่างตรงเวลา โดยมีนายยามเรือเดินซึ่งได้รับแนวทางและคำสั่งการของผู้บังคับการเรือ สำหรับสะพานเดินเรือ เรือหลวงช้างมีอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับการนำเรือที่ทันสมัย เช่น เรดาร์เดินเรือจำนวน ๒ ตัวแบบ x-band และ s-band แผนที่อิเล็คทรอนิกส์ จีพีเอสสำหรับการนำเรือ ระบบกล้องวงจรปิด ที่สามารถใช้ตรวจสอบ ในขณะปฏิบัติการยกพล และ ขณะปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือกับอากาศยาน รวมทั้ง ระบบถือท้ายที่ทันสมัย เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จตามที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งทอดพระเนตรภายในห้องสะพานเดินเรือด้วยความสนพระราชหฤทัย พร้อมทรงซักถามผู้บังคับการเรือถึงการติดตั้งยุทโธปกรณ์ประจำเรือและประสิทธิภาพของเรือยกพลขึ้นบก
จากนั้นเสด็จฯ ไปยังบริเวณหัวเรือ เสด็จขึ้นแท่น ประทับยืน ณ พระสุจหนึ่ทรงผินพระพักตร์ไปทางเรือหลวงปิ่นเกล้า ทรงรับการถวายความเคารพจากเรือหลวงปิ่นเกล้า ยิงสลุตหลวงจำนวน ๒๑ นัด เสร็จสิ้นแล้วเสด็จลงจากแท่นรับการถวายการยิงสลุตหลวง ไปยังบันไดทางลงเรือทรงทำความเคารพธงราชนาวีทางท้ายเรือ เสด็จฯไปยังพลับพลาพิธีทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ ทรงหลั่งทักษิโณทกเสด็จ ฯ ไปทรงกราบที่หน้าเครื่องนมัสการทรงลาพระสงฆ์ เสด็จออกจากพลับพลาพิธี ไปยังรถยนต์พระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนินกลับ
ทั้งนี้ เรือหลวงช้าง เป็นเรืออเนกประสงค์ยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ลำใหม่ที่กองทัพเรือได้ว่าจ้าง บริษัท China Shipbuilding Trading (CSSC) ให้ต่อขึ้น ณ อู่ต่อเรือหูตงจงหัว เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งได้รับการปรับปรุงและพัฒนาแบบมาจากเรือ LPD Type ๐๗๑ ที่ประจำการในกองทัพเรือจีน มีขีดความสามารถ ในการควบคุมบังคับบัญชา การปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก และมีขีดความสามารถในการลำเลียงกำลังรบยกพลขึ้นบกจำนวน ๖๕๐ นาย มียานรบประเภทต่าง ๆ รวมถึงยุทโธปกรณ์ อีกทั้งสามารถปฏิบัติงาน ร่วมกับอากาศยานของกองทัพเรือได้ทุกประเภท ใช้ระยะเวลาในการต่อเรือ ๔ ปี จึงแล้วเสร็จเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๖๖ โดยมีพลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือในขณะนั้น เดินทางไปเป็นประธานในพิธีรับมอบเรือหลวงช้าง ณ อู่ต่อเรือหูตงจงหัว เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการเดินทางกลับ เรือหลวงช้างได้ประกอบกำลังเดินทางกับเรือหลวงนราธิวาส รวมทั้งทำการฝึกการปฏิบัติงานในสถานีเรือต่าง ๆ เพื่อให้กำลังพล และเรือมีความพร้อมปฏิบัติราชการตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายทันทีที่เดินทางกลับมาถึง
เรือหลวงช้างลำใหม่นี้เป็นเรือหลวงช้างลำที่ ๓ ของราชนาวีไทย มีความยาวตลอดลำ ๒๑๐ เมตร ความกว้าง ๒๘ เมตร กินน้ำลึก ๗ เมตร ระวางขับน้ำ ๒๕.๐๐๐ ตัน มีกำลังพลประจำเรือ ๑๙๖ นาย แบ่งเป็นนายทหารสัญญาบัตร ๒๖ นาย พันจ่า ๓๙ นาย จ่า ๙๗ นาย และพลทหาร ๓๕ นาย โดยได้เข้าประจำการในกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ มีภารกิจหลักในการปฏิบัติการยุทธสะเทินน้ำสะเทินบก การขนส่งและลำเลียง อีกทั้งเป็นเรือบัญชาการ และมีภารกิจรองในการสนับสนุนการปฏิบัติการของเรือดำน้ำ อาทิ การช่วยเหลือและบรรเทาสาธารณภัย (HADR) การอพยพประชาชน การสนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ