ในด้านคุณภาพชีวิต รัฐบาลให้ความสำคัญกับความเท่าเทียมของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเปราะบาง คนพิการ ผู้สูงอายุ และกลุ่มชาติพันธุ์ โดยจะดูแลให้มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีงาน มีรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมด้วย สวัสดิการโดยรัฐ เพื่อเป็นการปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน ทั้งเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ
และโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด นางรัดเกล้า กล่าวอีกว่า โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด หรือเงินอุดหนุนบุตร ช่วยเหลือกลุ่มเด็กแรกเกิด-อายุ 6 ขวบ รับเงินอุดหนุนจำนวน 600 บาท สมาชิกครัวเรือนมีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาท/คน/ปี โดยเด็กที่เกิดเดือนกรกฎาคม 2561 จะหมดสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือเยียวยา และเด็กที่เกิดสิงหาคม 2561 จะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาเป็นก้อนสุดท้าย เนื่องจากมีอายุครบ 6 ขวบตามเงื่อนไข
ตั้งแต่เดือนที่ลงทะเบียนรับเงิน ส่วนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนกรกฎาคม 2567 จะจ่ายแบบขั้นบันได ผู้สูงอายุอายุ 60-69 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน 600 บาท ผู้สูงอายุอายุ 70-79 ปี 700 บาท ผู้สูงอายุอายุ 80-89 ปี 800 บาท และผู้สูงอายุอายุ 90 ปีขึ้นไป 1,000 บาท นางรัดเกล้า กล่าวว่า
สำหรับเบี้ยผู้พิการตามเกณฑ์อายุ โดยผู้พิการที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป 800 บาท และผู้พิการที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี รับเบี้ยยังชีพจำนวน 1,000 บาท
**โดยสามารถตรวจสอบเงินอุดหนุนบุตร เบี้ยผู้สูงอายุ เบี้ยคนพิการ ได้ผ่านแอปพลิเคชัน “เงินเด็ก” หรือ แอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” หรือ ทางบัญชีที่ได้แจ้งไว้