และมีการใช้เครื่องจักรใหญ่ขึ้นที่จุด A และ D ทำการเคลื่นย้ายวัสดุเพื่อลดความสูงที่จุด E ทีม USAR จัดเจ้าหน้าที่เตรียมความพร้อมประจำพื้นที่ หากพบร่างผู้เสียชีวิตจะเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่ หรือหากพบสิ่งผิดปกติ จะดำเนินการแก้ไขสถานการณ์ต่อไป นอกจากนี้มีการใช้ K9 สะกดรอย (ทำการค้นหาร่างผู้เสียชีวิต) สำหรับยอดผู้ประสบเหตุ 103 ราย เสียชีวิต 22 ราย บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างติดตาม 72 ราย

โดย รถแบคโฮ SK1000 ที่ใหญ่สุดในประเทศไทย ยกน้ำหนักได้ถึง 1000ตัน เดินทางมาสรับสนุนภารกิจแล้ว ต้องใช้เวลาประกอบแขน ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถใช้งานได้คืนนี้ และมีการนำคีมตัวหนีบยกมาด้วย ซึ่งสามารถยกแผ่นปูนขนาดใหญ่ที่มีน้ำมากออกจากกองซากได้ง่ายขึ้น

ด้าน นายสิริโรจน์ สิริพลากรกิจ หรือโจ้ ทุบตึก ผู้บริหารบริษัทปิยะมิตร เปิดเผยว่า แนวทางการทำงานคืนนี้ เบื้องต้น ยังคงเน้นใช้เครื่องจักรขนาดเล็ก ดำเนินการตัดและรื้อถอน เศษซากอาคาร ในบริเวณโซน A ซึ่งผู้รอดชีวิต ได้ให้ข้อมูลว่า มีลิฟต์ บันไดหนีไฟ เพราะตอนเกิดเหตุมีคนงานวิ่งลงมาจำนวนมาก ส่วนรถแบคโฮขนาดใหญ่ ทีมงานใช้รถที่มีช่วงแขนยาว 30 เมตร คืนนี้จะทำการประกอบ เพื่อนำรถแบคโฮ ประกอบกับหัวตัด และตัดแผ่นคอนกรีตและเหล็ก ดึงออกมาจากยอดตึกหรือโซน E

ยังไม่สามารถขึ้นไปตรงกลางซาก แต่คาดว่าคืนนี้จะสามารถดำเนินการได้ งานนี้เป็นการรื้อปูนออกจากคน แม้จะไม่มีชีวิต แต่จะต้องให้เกียรติ และจะทำให้ดีที่สุด หากทำได้ ก็จะสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ แต่ปัจจุบันยังมีซากเหล็กและคอนกรีตขวางอยู่

สำหรับรถแบคโฮ SK1000  เป็นของบริษัท ปิยะมิตร กรุ๊ป จำกัด นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น และพึ่งนำเข้ามาใช้ในประเทศไทยได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น