โดยที่เกิดเหตุพบว่าสถานที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร และพบศพ ชาย อายุ 30 ปี ใช้เชือกไนล่อนผูกคอกับกิ่งมะม่วง สูงจากพื้นประมาณ 3 เมตร โดยการใช้ไม้ที่เจ้าของที่นาตัดเป็นท่อนๆ เหยียบขึ้นไปแทนเก้าอี้จนท่อนไม้ล้มลง
บริเวณใกล้เคียงพบของใช้ส่วนตัว โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ และกระเป๋าเสื้อผ้าวางเอาไว้พร้อมเชือกไนล่อน ตรวจตามร่างกายไม่พบร่องรอยหรือบาดแผลการถูกทำร้ายแต่อย่างใด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชั่วโมง
จากการสอบถามทางโทรศัพท์กับมารดาของผู้เสียชีวิต ซึ่งไปทำธุระอยู่ต่างจังหวัด บอกว่า ลูกชายของตนไปทำงานแรงงานอยู่ที่ประเทศไต้หวัน แล้วได้เดินทางกลับมาพักผ่อนที่บ้าน และกำลังเตรียมจะเดินทางไปขึ้นเครื่องบินที่กรุงเทพฯ โดยลูกชายออกจากบ้านตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเดินทางไปขึ้นรถโดยสารไปยังกรุงเทพฯ แล้วไปรอขึ้นเครื่องบินเดินทางต่อไปวันต่อมาตนก็โทรศัพท์ติดต่อลูกชายอีกไม่ได้ คิดว่าแบตเตอรี่โทรศัพท์คงจะหมด ก็คิดแต่ว่าลูกเดินทางไปถึงกรุงเทพฯ แล้วและจะรอขึ้นเครื่องบิน ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนกระทั่งมาทราบข่าวจากญาติโทรมาบอกว่าลูกชายผูกคอตาย ทั้งนี้ลูกชายเคยพูดเปรยๆ กับตนว่าไม่อยากกลับไปทำงานที่ประเทศไต้หวันอีก แต่เงินก็อยากได้ จึงจะกลับไปอีกสักครั้ง ส่วนสาเหตุการผูกคอเสียชีวิตนั้น ก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอะไร