1 กลุ่มเดิม คือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจนในปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลัง นำรายชื่อไปคัดกรองสิทธิอัตโนมัติ2 กลุ่มผู้ลงทะเบียนใหม่ คือ กลุ่มที่ยังไม่เคยได้รับสิทธิมาก่อน ซึ่งมาจากประชาชนที่อายุครบ 18 ปี ที่ได้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565 เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังมีกลุ่มตกหล่น จำนวน 8 แสน ที่ยังไม่มายืนยันตัวตน
ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว
สัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี หรือภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่างๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน หรือในระดับครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
ไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
ไม่มีวงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
ไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
กรณีไม่มีครอบครัว ห้องชุดต้องไม่เกิน 35 ตร.ม. และที่ดินที่ไม่ใช่เพื่อการเกษตร ไม่เกิน 1 ไร่ และใช้ในการเกษตร ไม่เกิน 10 ไร่ มีบ้านพร้อมที่ดิน บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ตึกแถว ไม่เกิน 25 ตร.ว. และรวมกันหมดแล้ว พื้นที่การเกษตรไม่เกิน 10 ไร่
ค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
ค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
ส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ