เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก หรือแชร์ลูกโซ่ดิไอคอนฯ ว่า
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 ธ.ค.ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการประชุมหารือกับพนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน และที่ปรึกษาคดีพิเศษ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางด้านบัญชีและเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) โดยวาระการพูดคุยจะเน้นย้ำในเรื่องรายละเอียดความครบถ้วนของสำนวนคดี ซึ่งมีมติเอกฉันท์ว่าดีเอสไอจะสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ สำนักงานคดีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค. เนื่องจากบรรดา 18 บอสดิไอคอนฯ ต่างได้ทยอยส่งหนังสือชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้ว
และขณะนี้ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อรรคริน ลัทธศักดิ์ศิริ รอง ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดำเนินการรวบรวมเรียบเรียงเอกสารคำให้การทั้งหมด และตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอน เพราะในวันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้มีการนัดประชุมกันเพื่อพิจารณาเอกสารและพยานหลักฐานทั้งหมดของสำนวน เพื่อจะมีความเห็นทางคดีอย่างเป็นเอกฉันท์ว่าจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหารายใดจากข้อกล่าวหาใดบ้าง
อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาการฝากขังต่อศาลของคดีร่วมกันฟอกเงินฯ นั้น “ความผิดร่วมกันฟอกเงิน” มีอัตราโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 พนักงานสอบสวนสามารถยื่นขอศาลฝากขังได้ไม่เกิน 84 วัน (หรือ 7 ฝาก) ทั้งนี้ ในส่วนของการขยายผลในคดีดังกล่าว
ขณะที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า สำหรับกรณีคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ของนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช นั้น ดีเอสไอจะเข้าไปที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยเป็นข้อหาเดิม เพียงแต่เป็นอีกหนึ่งกรรมการกระทำความผิด เนื่องจากพบว่านายสามารถ มีการใช้บัญชีธนาคารของหวานใจเป็นบัญชีม้า เหมือนพฤติการณ์ที่ใช้บัญชีธนาคารของแม่ตนเองเป็นบัญชีม้าเช่นเดียวกัน ซึ่งมีจำนวนเงินประมาณหลักล้านบาท
นอกจากนี้ ยังพบว่าบัญชีธนาคารของบอสดิไอคอนฯ บางรายก็มีการโอนเงินมายังบัญชีหวานใจของนายสามารถ อีกด้วย ซึ่งพฤติการณ์คล้ายการโอนเงินเข้าไปยังบัญชีของนางวิลาวัลย์ (มารดานายสามารถ)