สามีป่วยมะเร็งสมอง ภรรยามะเร็งเต้านม อึ้ง หมอบอก “เกี่ยวกัน” ทั้งที่ไม่ใช่โรคติดต่อ

สามีป่วยมะเร็งสมองเสียชีวิต ไม่นานภรรยาป่วยมะเร็งเต้านม อึ้ง หมอบอก”เกี่ยวกัน” ทั้งที่ไม่ใช่โรคติดต่อ

นักข่าวชื่อดังชาวไต้หวัน Quan Jiali เพิ่งปรากฏตัวอีกครั้งหลังจากหายไปนาน โดยเปิดเผยว่าสาเหตุที่เธอเงียบหายไปช่วงที่ผ่านมาเพราะสามีของเธอเสียชีวิตจากมะเร็งสมอง นอกจากนี้ตัวเธอเองยังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม

Quan Jiali เปิดเผยว่าสามีของเธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีก้อนเนื้อ 6 ก้อนในสมอง ซึ่งเซลล์มะเร็งได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ตรวจพบจนถึงเสียชีวิตใช้เวลาเพียงครึ่งปี ทำให้เธอช็อกและเสียสุขภาพจิตไปอย่างมาก

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น เธอเองก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเต้านม แพทย์ระบุว่า 90% ของการเติบโตของเซลล์มะเร็งเกิดจากความเครียดที่มากเกินไป โชคดีที่พบเซลล์มะเร็งในระยะเริ่มต้น ทำให้สามารถรักษาได้ง่าย

จากนั้นเธอเริ่มใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายและอารมณ์ของตัวเองมากขึ้น เธอกล่าวว่าการ “เยียวยาหัวใจ” แม้ฟังดูเป็นนามธรรม แต่สามารถนำมาปฏิบัติได้จริง เพราะสุขภาพและอารมณ์เกี่ยวข้องกันโดยตรง

ความเชื่อมโยงระหว่างอารมณ์และสุขภาพ

งานวิจัยจากสถาบันการแพทย์แผนจีนระบุว่า 40% ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีปัญหาทางจิตใจ เช่น ความเหนื่อยล้า ความเศร้า หรือสิ้นหวัง และ 10% ของผู้ป่วยมีภาวะซึมเศร้ารุนแรง

Lobsang Jiacan อดีตแพทย์จาก Harvard Medical School กล่าวว่าผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมักมีความไม่สบายใจภายในจิตใจ เขาแนะนำให้ใช้เวลาสงบจิตใจ เช่น การทำสมาธิ หรือสร้างความสัมพันธ์เชิงบวก เพื่อบรรเทาความเครียดและส่งเสริมสุขภาพจิต

วิธีลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม

  1. การออกกำลังกายเป็นประจำ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่ยับยั้งเซลล์มะเร็งในร่างกาย และลดความเสี่ยงของมะเร็งได้ถึง 13 ชนิด ควรออกกำลังกายวันละ 30 นาที เลือกรูปแบบที่เหมาะสมและทำอย่างต่อเนื่อง
  2. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การรับประทานผักและผลไม้ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม เช่น ผักตระกูลกะหล่ำและบร็อกโคลี ที่มีวิตามินซี แคโรทีนอยด์ และโพลีฟีนอล ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง
  3. การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม ผู้หญิงอายุ 40-74 ปี และผู้ที่มีความเสี่ยงสูงควรตรวจคัดกรองเป็นประจำ การตรวจแมมโมแกรมและ MRI สามารถช่วยตรวจพบปัญหาได้ตั้งแต่ระยะแรก หากพบความผิดปกติ เช่น ก้อนเนื้อที่เต้านม ควรปรึกษาแพทย์ทันที