สงกรานต์สุพรรณ ทำพิษ ผลตรวจยืนยัน เจอเชื้อไวรัสโรตา-โนโร หลังเล่นอุโมงค์น้ำ ทุกทิศทั่วไทย

24 เม.ย. 2567

14:08 น.
สงกรานต์สุพรรณ ทำพิษ ผลตรวจผู้ป่วยยืนยัน เจอเชื้อไวรัสโรตา-โนโร สาเหตุคลัสเตอร์ท้องร่วง หลังเล่นอุโมงค์น้ำ เก็บตัวอย่างน้ำ หาแหล่งแพร่กระจาย

วันที่ 24 เม.ย.2567 นพ.ยงยศ ธรรมวุฒิ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์การระบาดของโรคอุจจาระร่วงเป็นกลุ่มก้อนจากงานสงกรานต์อุโมงค์น้ำที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งพบผู้ป่วยช่วงอายุ 2–14 ปี มีอาการอาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ ถ่ายเหลว ปวดท้อง มีไข้ ถ่ายมีเลือดปน อ่อนเพลีย บางรายมีอาการผื่นคันตามตัวหลังจากเล่นอุโมงค์น้ำ

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ทำการสอบสวนโรค เก็บตัวอย่างอาหารและน้ำ เพื่อส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ด้วยเทคนิค Multiplex Real-time PCR

ซึ่งสามารถตรวจหาเชื้อก่อโรคกลุ่มอาการอุจจาระร่วงได้พร้อมกัน 19 ชนิด ผลการตรวจตัวอย่างอุจจาระผู้ป่วยทั้งหมด 19 ราย พบ ผลบวกเชื้อไวรัสโรตา (Rotavirus) ทุกราย

ผู้จัดงานปาร์ตี้โฟม สารภาพที่มาแหล่งน้ำทำเด็กป่วย ขอโทษเหตุเพราะน้ำไม่พอ
ยอดป่วยพุ่ง65ราย สงกรานต์ปาร์ตี้โฟม เปิดผลตรวจอึ เผยน้ำมีกลิ่นเหม็น
หามเด็กถึง 50 คน รีบส่งโรงพยาบาล พบอาเจียน-คลื่นไส้ หลังไปเล่นสงกรานต์ปาร์ตี้โฟม
“นอกจากนี้ มี 14 รายจาก 19 รายนี้ พบผลบวกเชื้อไวรัสโรตาร่วมกับไวรัสโนโร (Norovirus) ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ประสานแจ้งผลตรวจยืนยันไปยังกรมควบคุมโรคและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรีแล้ว เพื่อขยายผลการเฝ้าระวังการระบาด ลดการแพร่กระจายเชื้อก่อโรคอุจจาระร่วงต่อไป” นพ.ยงยศกล่าว

นพ.ยงยศ กล่าวต่อว่า ไวรัสโรตา และไวรัสโนโร มักพบเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน อาการและลักษณะอุจจาระไม่ได้มีลักษณะจำเพาะ จึงต้องอาศัยการตรวจอุจจาระทางห้องปฏิบัติการ เพื่อแยกจากการติดเชื้อก่อโรคอุจจาระร่วงอื่นๆ การติดต่อเกิดจากการได้รับเชื้อไวรัสเข้าสู่ปากโดยตรง

โดยเชื้ออาจปนเปื้อนมากับมือ สิ่งของ เครื่องใช้หรือของเล่นต่างๆ รวมทั้งอาหารและน้ำ ซึ่งเหตุการณ์ระบาดครั้งนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เก็บตัวอย่างน้ำ เพื่อตรวจหาสาเหตุ หรือแหล่งแพร่กระจายเชื้อโรคดังกล่าวด้วย

ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อยู่ระหว่างดำเนินการทดสอบตัวอย่างน้ำทางห้องปฏิบัติการ และจะทดสอบสายพันธุ์ไวรัสที่เป็นสาเหตุของการระบาดในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นข้อมูลสนับสนุนการพัฒนาวัคซีนหรือมาตรการป้องกันอื่นๆ ที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมการระบาดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

“สำหรับประชาชนสามารถป้องกันไม่ให้ได้รับเชื้อด้วยการกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำ หรือน้ำแข็งที่ไม่สะอาด ใช้น้ำยา 0.5% โซเดียมไฮโปคลอไรด์ หรือน้ำยาซักผ้าขาว เจือจาง 10 เท่าในการฆ่าเชื้อบนพื้นผิวสิ่งแวดล้อม หรือสิ่งของ เป็นต้น” นพ.ยงยศกล่าว