โดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ อาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ได้จัดกำลัง ชุดประดาน้ำลงงมค้นหาบริเวณอ่างเก็บน้ำ และเดินตรวจสอบบริเวณพื้นที่โดยรอบ แต่ก็ต้องตกตะลึง บริเวณ ริมทางรถไฟ ห่างจากอ่างเก็บน้ำประมาณ 100 เมตร พบศพปริศนา ที่ไม่ทราบว่า เป็นชายหรือหญิง และเป็นใครมาจากไหน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในแอ่งน้ำ ที่มีต้นไม้ขึ้นปกคลุม สภาพศพ สวมเสื้อยืดและนุ่งผ้าโสร่ง แต่ร่างกายเน่าเปื่อย เหลือแต่กระดูก คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 15 วัน
จากการตรวจสอบไม่พบเอกสาร ที่ระบุว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงก็ไม่มีใครทราบว่า ศพของผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวเป็นใคร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี จึงให้ทางเจ้าหน้าที่เก็บศพดังกล่าวส่งไปตรวจสอบที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล และหาสาเหตุของการเสียชีวิตว่ามาจากสาเหตุใด ใช่การฆาตกรรมหรือไม่ต่อไป
ส่วนการค้นหาร่างของหญิงที่คาดว่าจะจมน้ำบริเวณอ่างเก็บน้ำแก้มลิง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาค้นหาประมาณ 20 นาที จึงพบศพของหญิงรายดังกล่าว จมอยู่ก้นบ่อ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นางเดือน แจ้งจิตร อายุ 45 ปี โดยลูกชายของผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่และแฟนใหม่ของแม่ ได้มาลงมุมจับหอยกันที่บริเวณอ่างเก็บน้ำดังกล่าวตั้งแต่ช่วงสาย กระทั่งช่วงประมาณ 15.30 น. ตนได้รับแจ้งจากแฟนใหม่ของแม่ว่า แม่หายตัวไปบริเวณอ่างเก็บน้ำ ตนจึงรีบมาดู และพบเพียงกระป๋องที่บรรจุหอยจำนวนมาก ลอยอยู่กลางอ่างเก็บน้ำ แต่ไม่พบตัวแม่ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งอาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ มาลงมุมค้นหาและพบศพของแม่ดังกล่าว
ขณะเดียวกัน อาสาสมัครมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ ที่เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ในตอนแรกได้รับแจ้งเหตุ หญิงจมน้ำหายไปบริเวณอ่างเก็บน้ำแก้มลิง จึงรีบมาตรวจสอบ แต่เนื่องจากช่วงเกิดเหตุไม่มีใครเห็นจุดที่หญิงคนดังกล่าวจมน้ำหายไปอย่างแน่ชัด อาสาสมัครจึงกระจายกำลังกันออกค้นหา บริเวณโดยรอบ กระทั่งไปพบศพปริศนาดังกล่าวอยู่บริเวณ ริมทางรถไฟ ซึ่งถือเป็นเรื่องน่าแปลกเป็นอย่างมาก ตั้งแต่ทำงานอาสาสมัครมา ก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์ เช่นนี้มาก่อน ถือเป็นการมาตรวจสอบเคสเดียว แต่กลับพบศพของผู้เสียชีวิตรายอื่นที่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันเช่นนี้
