ผักผลไม้บ้านๆ แต่คุณประโยชน์ไม่บ้าน! “กระเจี๊ยบเขียว” หรือที่บางคนเรียกว่า “ถั่วฝักยาวญี่ปุ่น” ไม่เพียงแต่หาซื้อได้ง่ายตามตลาดไทยและมีราคาย่อมเยา แต่ยังมีสรรพคุณโดดเด่นช่วยลดไขมันในเลือดและควบคุมน้ำตาล จนคนญี่ปุ่นนิยมรับประทานและขนานนามว่า “โสมเขียว”

ที่ประเทศญี่ปุ่น กระเจี๊ยบเขียวถือเป็นผักยอดนิยม ใช้ทำอาหารตั้งแต่สลัด okura no aemono ไปจนถึงการลวกกินง่ายๆ เพราะอยู่ในกลุ่มอาหาร “เนบะ เนบะ” (neba neba foods) ที่มีความเหนียวหนืด เช่นเดียวกับนัตโตะและสาหร่าย เชื่อว่าช่วยเสริมระบบย่อยอาหารและสุขภาพโดยรวม

สารสำคัญของกระเจี๊ยบเขียวคือ เมือกเหนียว (mucilage) ซึ่งสามารถจับกับคอเลสเตอรอลระหว่างการย่อยอาหารและช่วยขับออกทางระบบขับถ่าย ทำให้ร่างกายดูดซึมไขมันเลวน้อยลง ส่งผลดีต่อหัวใจและหลอดเลือด ตามรายงานจาก Healthline และงานวิจัยของ สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ (NIH)

นอกจากนี้ Medical News Today ยังเผยผลการศึกษาว่า ผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่รับประทานผงกระเจี๊ยบเขียวขนาด 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน มีแนวโน้มระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

แม้ในทางพฤกษศาสตร์ กระเจี๊ยบเขียวจะจัดเป็นผลไม้ เพราะเกิดจากรังไข่ของดอกและมีเมล็ด แต่ในการบริโภคประจำวันมักถูกใช้เป็นผัก ทำได้ทั้งต้ม ยำ แกง และผัด “กระเจี๊ยบเขียว” ของดีราคาเบา ลดไขมันในเลือด คนญี่ปุ่นยกให้เป็นโสมเขียว

คุณค่าทางโภชนาการ ใน 100 กรัม ให้พลังงานเพียง 33 แคลอรี แต่เต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญ ได้แก่

–   แมกนีเซียม 14% DV

–   โฟเลต 15% DV

–   วิตามิน C และ K1 26% DV

–   ใยอาหาร 3 กรัม

ประโยชน์ต่อสุขภาพ ได้แก่:

–   ลดไขมันและน้ำตาลในเลือด

–   ดีต่อสตรีมีครรภ์ ลดความเสี่ยงความผิดปกติของทารก

–   มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ลดการอักเสบและปกป้องสมอง

–   การทดลองในห้องแล็บพบว่าอาจช่วยยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมได้ถึง 63%

แม้จะเป็นผักผลไม้ราคาย่อมเยา แต่คุณค่าของกระเจี๊ยบเขียวนับว่าไม่ธรรมดา ใครอยากดูแลสุขภาพหัวใจ น้ำตาล และความแข็งแรงโดยรวม นับว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ควรมีติดครัว

แหล่งที่มาอ้างอิง

1.Healthline – Okra: Nutrition, Benefits, and Recipe Ideas

2.NIH (National Institutes of Health) – งานวิจัยด้านใยอาหารและไขมันในเลือด

3.Medical News Today – What are the benefits of okra?