เกิดอุบัติเหตุสลดรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ชนกับรถกระบะ 4 ประตู บนถนนหมายเลข 11 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 60 บ้านทำนบ อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างของผู้เสียชีวิตชายและหญิงออกจากรถกระบะโตโยต้า สีขาว ทราบชื่อ นายธวัช คำสนิท อายุ 65 ปี คนขับ นางหนู จันทมาส อายุ 64 ปี และผู้บาดเจ็บเป็นหญิงอีก 1 ราย ยังไม่ทราบชื่อ ติดอยู่บริเวณห้องโดยสารส่วนหลัง นำส่งโรงพยาบาลท่าตะโก
ห่างออกไปประมาณ 70 เมตร พบรถพ่วง 22 ล้อบรรทุกแร่ ตกอยู่ลึกลงไปประมาณ 4 เมตร สภาพของหัวรถพ่วงปักลงไปในคูน้ำ โดยมีแร่ที่อยู่บนรถทับส่วนหัวของรถพ่วงจนมิด จนต้องนำรถแบ็กโฮมาขุดดินออก ซึ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง จึงนำร่างของคนขับเป็นชายชื่อ นายบุญญฤทธิ์ สุขแจ่ม อายุ 46 ปี ออกจากบริเวณส่วนหัวของรถได้ โดยมีบุตรชายวัย 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนอำเภอหนองบัว ยืนร้องไห้รอรับร่างของผู้เป็นพ่ออย่างน่าเวทนา ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า ตนอยู่กับพ่อสองคน เนื่องจากแม่ทำงานอยู่ต่างจังหวัด พ่อมีอาชีพขับรถพ่วงบรรทุกแร่ไปส่งในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ซึ่งทุกวันที่ผ่านมาตนกับพ่อจะต้องออกไปทำงานด้วยกัน แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรก ตนจึงไม่ได้ไปกับพ่อ แต่ก็รู้สึกแปลกใจที่ทุกครั้งพ่อออกไปขับรถจะปลุกตน แต่ครั้งนี้พ่อไม่ได้ปลุก มาทราบอีกทีก็เมื่อกำลังจะเดินทางไปโรงเรียน
ส่วนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในรถกระบะ ต่อมา มีญาติให้ข้อมูลว่าในรถมาด้วยกันทั้งหมด 3 คน เป็นชาย 1 คนซึ่งเป็นคนขับ และหญิง 2 คน โดยทั้งหมดเป็นชาวอำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อช่วงกลางวันทั้ง 3 คน ได้เดินทางจากอำเภอหนองบัว ไปโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมือง ตามใบนัดของแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพ จากนั้นทั้งหมดได้เดินทางต่อไปที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อไปชมการแสดงลิเกคณะไชยา มิตรชัย ซึ่งทั้ง 3 เป็นแฟนคลับหรือเอฟซีตัวยง ทุกครั้งเมื่อ ไชยา มิตรชัย มาแสดงในโซนภาคกลาง จะไปให้กำลังใจทุกครั้ง
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คาดว่าหลังจากลิเกแสดงจบ ทั้งหมดได้เดินทางกลับบ้านในพื้นที่อำเภอหนองบัว นครสวรรค์ และมาประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกพ่วงที่จุดดังกล่าว โดยผู้เสียชีวิตเป็นญาติกัน ส่วนผู้บาดเจ็บนั่งอยู่ด้านหลัง เป็นภรรยาของคนขับ
สำหรับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ คาดว่าอาจจะเป็นเพราะถนนที่กำลังมีการปรับปรุงซ่อมแซม อีกทั้งยังมีสภาพมืดตลอดเส้นทาง อาจทำให้รถคันใดคันหนึ่งขับคร่อมช่องทาง ส่วนสาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะโก เจ้าของพื้นที่