ลูกชาย 4 ขวบ แอบหยิบขนมใส่กระเป๋า สัญญาณร้องเตือน “ไม่จ่ายเงิน” ซุปเปอร์มาร์เก็ตจะปรับ 10 เท่า แต่คุณแม่ขอไม่จ่าย ให้เหตุผลโดนใจ!
ที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต เรามักเห็นหลายครอบครัวพาลูกเล็กๆ มาซื้อสินค้าด้วย เด็กอาจคิดว่าสามารถเลือกสิ่งที่พวกเขาชอบได้อย่างอิสระ แต่เด็กส่วนใหญ่ยังไม่มีแนวคิดเรื่องการใช้เงิน โดยคิดว่าพวกเขาสามารถหยิบอะไรก็ได้โดยไม่ต้องจ่าย นี่เป็นหนึ่งในเรื่องที่น่าปวดหัวสำหรับผู้ปกครอง ดังเช่นกรณีที่เกิดขึ้นในประเทศจีนเมื่อเร็วๆ นี้
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานเรื่องราวของคุณแม่คนหนึ่ง ที่พาลูกชายวัย 4 ขวบ ไปซุปเปอร์มาร์เก็ตในช่วงสุดสัปดาห์ เธอให้ลูกนั่งบนรถเข็นในระหว่างที่จับจ่ายซื้อของหลายอย่าง กระทั่งถึงเวลาชำระเงินที่แคชเชียร์เรียบร้อยแล้ว ในจังหวะที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอก ก็มีเสียงสัญญาณที่ร้องแจ้งเตือนว่ามีของ “ค้างชำระ”
เจ้าหน้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ตตรงเข้ามาตรวจสอบทันที โดยใช้วิธีเปรียบเทียบสิ่งของและใบเสร็จรับเงิน และพบว่าสินค้าทุกชิ้นถูกชำระเงินครบถ้วน จึงปล่อยให้เธอเดินผ่านเครื่องตรวจสอบอีกครั้ง คราวนี้เครื่องไม่ร้องแจ้งเตือนแล้ว ทุกคนคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาของระบบที่ทำงานผิดพลาด แต่ในตอนที่ลูกชายเดินตามแม่ไปนั้นเอง เสียงแจ้งเตือนก็ดังขึ้นอีกครั้ง
ปรากฎว่าลูกชายวัย 4 ขวบ หยิบช็อกโกแลตแท่งมาใส่ไว้ในกระเป๋าของตนเอง ผู้เป็นแม่ไม่ทราบจึงไม่ได้นำออกมาชำระเงินเธอรีบขอโทษเจ้าหน้าที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต และบอกว่าเธอจะจ่ายค่าขนมแท่งที่ลูกชายของเธอหยิบมา อีกทั้งยังสอนให้ลูกชายขอโทษทุกคนด้วย แต่ผลก็คือทางซุปเปอร์มาร์เก็ตตัดสินใจจะปรับเป็นจำนวน 10 เท่าของมูลค่าช็อกโกแลตแท่งนั้น
เมื่อเห็นทัศนคติของเจ้าหน้าที่ซูเปอร์มาร์เก็ต คุณแม่จึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ลูกไม่มีความรู้เรื่องเงิน ถือเป็นความผิดพลาดทางการสอนของฉัน ฉันสามารถชดเชยตามราคาของผลิตภัณฑ์ได้ แต่ยอมรับไม่ได้กับการปรับ 10 เท่า ซูเปอร์มาร์เก็ตไม่มีสิทธิ์กำหนดมาตรการเช่นนี้ หากคุณไม่ว่าอะไรก็สามารถแจ้งตำรวจเพื่อจัดการเรื่องนี้ได้”
คำตอบของคุณแม่ทำให้คนรอบข้างชื่นชม โดยคิดว่าคำพูดของเธอนั้นสมเหตุสมผล วิธีการนี้สมควรได้รับการยกย่อง เพราะมันมีคุณค่าทั้งในการให้ความรู้แก่เด็กๆ และให้ “เกียรติ” เพื่อปกป้องความภาคภูมิใจในตนเองของเด็กด้วย ท้ายที่สุดพนักงานซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ต้องคิดเงินตามมูลค่าของช็อกโกแลตแท่ง แล้วปล่อยให้แม่และเด็กกลับบ้านไป
แม่ขู่กลางห้าง “ถ้าดื้อจะไม่รัก” ลูกชาย 4 ขวบ ตอบประโยคเด็ด คนแห่ยกย่องความฉลาด
เด็กหญิง 4 ขวบ เกือบถูกลักพาตัว แต่พูด 3 คำ โจรกลัวเผ่นหนี ผู้ใหญ่ยังชมไหวพริบดีมาก!
ทั้งนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่คล้ายกันนี้ พ่อแม่ควรสอนลูกอย่างไร?
1. ให้ความรู้แก่เด็กๆ ว่า “การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์” เป็นสิ่งที่เด็กๆ ต้องรู้ หากพาลูกไปซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของเป็นประจำและบอกพวกเขาว่า “ไม่สามารถเอาของไปโดยไม่จ่ายเงิน” โดยผู้ปกครองต้องเป็นตัวอย่างในการให้ความรู้แก่บุตรหลานด้วย
2. ปล่อยให้เด็กจ่ายเงินเองจำนวนเล็กน้อยจนเป็นนิสัย เพราะเด็กส่วนมากไม่รู้ว่าจะต้องจ่ายเงินเมื่อซื้อสินค้า เพราะไม่เคยต้องจ่ายเงินด้วยตัวเอง ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถปล่อยให้บุตรหลานฝึกจ่ายเงิน เพื่อให้เข้าใจว่าพวกเขาจำเป็นต้องจ่ายเงินสำหรับสิ่งที่พวกเขาต้องการ
ในตอนแรกพ่อแม่สามารถเป็นแบบอย่างได้ เพราะเด็กชอบเลียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ และการจ่ายเงินทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ ต่อมาเมื่อเด็กๆ สามารถเข้าใจกฎเกณฑ์ได้ชัดเจน ว่าการชำระเงินเป็นสิ่งที่ต้องทำ พวกเขาจะจ่ายเงินให้แคชเชียร์ทันทีหลังจากซื้อของ
3. ปกป้องความภาคภูมิใจในตนเองของเด็ก เพราะไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือคนโต ทุกคนล้วนมีความนับถือตนเอง หากในที่สาธารณะ เด็กถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นขโมย มันจะทิ้งความมืดมิดทางจิตใจไว้ในใจเด็กได้อย่างง่ายดาย ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการด้านสุขภาพจิตของเด็กในอนาคต
ดังนั้น เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นเรื่องราวข้างต้น สิ่งแรกที่พ่อแม่ควรทำคือปกป้องลูก ยอมรับความผิดพลาด ช่วยเด็กๆ ขจัดแนวคิดเรื่องการขโมย และพูดคุยทำความเข้าใจกับคู่กรณีว่า ”เด็กไม่อยากขโมย เขาแค่ไม่ได้รับการสอนเรื่องเงินจากฉัน” พร้อมสัญญาว่าจะให้ความรู้แก่ลูกให้ดีขึ้นในอนาคต จากนั้นต้องให้เด็กขอโทษด้วย