ชาวบ้านผวา สาวคลั่งยาหนัก ถือมีดปังตอวิ่งทั่ว ปาเข้ามาในบ้าน หวิดสับคอ ทุกทิศทั่วไทย

ชาวบ้านผวา สาวคลั่งยาหนัก ถือมีดปังตอวิ่งทั่ว ปาเข้ามาในบ้าน หวิดสับคอ ห่วงความปลอดภัยครอบครัวกลัวถูกฆ่า ด้านพี่ชายแท้ๆ ยังโดนไล่ทำร้าย

วันที่ 21 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่บ้านกุดลิงง้อ หมู่ 3 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่า ตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อนและผวาไปตามๆ กัน เพราะมีหญิงสาวรายหนึ่งติดยาและคลั่งใช้มีดไล่ทำร้ายชาวบ้าน ก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง และยังถือมีดไล่ทำร้ายพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองด้วย

สาวติดยาคลั่ง วิ่งถือมีดปังตอ ก่อนปาใส่บ้านเพื่อนบ้าน นั่งอยู่หวิดโดนคอ

โดยมีชาวบ้านนำคลิปวิดีโอไปโพสต์ในโลกออนไลน์ว่า “หญิงสาวคลุ้มคลั่ง ใช้มีดขว้างเพื่อนบ้านและไล่ฟันพี่ชายตัวเอง เหตุเกิด ที่หมู่ 3 ต.นาดี อ.เมือง จ.อุดรธานี มีหญิงสาวคลุ้มคลั่ง และมีอาการคล้ายคนติดยา ใช้มีดขว้างเพื่อนบ้านและไล่ฟันพี่ชายตัวเองแล้วปามีดใส่พี่ชายตัวเองสองอัน พี่ชายเลยถือเหล็กไว้ฟาดเพื่อป้องกันตัว แล้วเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งหลังบ้านเค้าได้ยินเสียง เลยส่องดูจากบ้านเขา”

“เห็นมีแค่นางในคลิปที่คลั่งและโวยวายว่าคนทำร้าย และอีกอันมาเขวี้ยงใส่บ้านเราคือร้านค้าในคลิป เพราะโมโหที่แม่เราและลูกค้าไม่ช่วยเหลือนาง จุดที่ขว้างมีดคลิปที่ 2 แม่ยืนอยู่หน้าบ้านป้าเรา นางขู่ว่าจะโยนมีดขึ้นฟ้า แต่โยนมาติดประตูรั้วตรงข้างบ้านเรา ซึ่งจุดนั้นเป็นจุดที่พี่สาวเรานั่งทำงานอยู่ ถ้าไม่มีต้นฝรั่งกั้นอยู่มีดคือตรงกับคอพี่สาวเราพอดีค่ะ คนในหมู่บ้านก็ถูกทำร้ายและถูกก่อกวนหลายคน ฝากหน่วยงานที่สามารถช่วยเหลือได้ ช่วยชาวบ้านด้วย”

ภายในคลิปวิดิโอพบว่าผู้ก่อเหตุ คือ น.ส.เจี๊ยบ อายุ 38 ปี วิ่งขากะเผลกและถือมีดปังตอ ร้องตะโกนโวยวายมาที่บ้านเพื่อนบ้าน บอกว่ายายน้อยช่วยด้วยๆ พี่ชายมันจะฆ่าเอา ขณะที่ยายน้อยเจ้าของบ้านก็ร้องบอกว่า มึงวิ่งไปโรงพัก มึงอย่าวิ่งหากูนะ แล้วรีบปิดประตูบ้านทันที จากนั้นพี่ชายของ น.ส.เจี๊ยบ ได้ตะโกนไล่ตามหลังน้องสาวว่า มึงถือมีดอยู่ดีๆ หาว่าพี่ชายจะฆ่า และมีเสียงพี่ชายบอกให้น้องสาวไปไกลๆ ไม่งั้นกูจะฆ่ามึงแน่

ด้าน น.ส.เจี๊ยบ ก็ท้าทายพี่ชายบอกว่า มึงมาเลยๆ จากนั้นก็ขว้างมีดทิ้งไป ปรากฏว่ามีดกระเด็นเข้าไปในบ้านเพื่อนบ้านเกือบโดนคอเพื่อนบ้านที่นั่งอยู่ภายในบ้าน โชคดีที่มีดปังตอไปติดอยู่กับต้นฝรั่งและสังกะสี หากไม่มีต้นฝรั่งมากั้น อาจจะได้รับบาดเจ็บแน่นอน

สอบถาม น.ส.สุนันทา อายุ 36 ปี เพื่อนบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า น.ส.เจี๊ยบ มีอาการหลอนยาหลายครั้งแล้ว ทำให้แม่ตนที่เปิดร้านขายของเกิดความหวาดกลัว เพราะปกติตนรับราชการจะไปทำงานในตัวเมือง จะกลับมาเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น

ผู้เสียหายเล่านาทีเกือบโดนมีดปังตอ

น.ส.สุนันทา กล่าวต่อว่า เมื่อวานตนนั่งทำงานอยู่สวนข้างบ้าน ผู้หญิงคนนี้วิ่งร้องมาให้แม่ช่วย ทั้งๆ ที่หญิงคนนี้จะทำร้ายพี่ชาย จากนั้นก็ได้ยินเขาขว้างมีดเข้ามาในบ้าน โชคดีมากมีดไปติดกับกับต้นฝรั่งและสังกะสีพอดี หากไม่มีต้นฝรั่ง มีดน่าจะมาโดนศีรษะหรือคอของตนจนได้รับบาดเจ็บแน่นอน

น.ส.สุนันทา กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาก็ได้ยินเสียงอาละวาดแทบทุกวัน ตอนนี้เริ่มคลั่งมากกว่าเดิมแล้ว วันก่อนก็ได้ยินเขาขุดดินข้างๆ บ้านตน ไม่รู้เขาจะทำอะไร ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 17 เม.ย. ก็มีผู้ชายถือมีดดาบยาวมากมาที่บ้านแม่เพื่อซื้อน้ำดื่ม แล้วเดินวนรอบบ้าน แม่ก็กลัว จากนั้นก็เข้าไปที่บ้าน น.ส.เจี๊ยบ คาดว่าจะเป็นพวกคนเสพยาด้วยกัน

น.ส.สุนันทา กล่าวต่อว่า พอเกิดเหตุการณ์ 2 วันต่อกัน แม่และตนก็กลัว ตอนนี้ไปแจ้งความที่สภ.เมืองอุดรธานี แล้ว เกิดเรื่องแบบนี้พ่อและแม่ที่อายุมากก็กลัว ตนก็กลัว กลัวเขาหลอนยาเกิดคลั่งแล้วเอามีดมาปาดคอ ครอบครัวรู้สึกไม่โอเค เพราะชีวิตครอบครัวเราก็สำคัญ ตนเคยถามซื้อบ้านจากพี่สาวของเขา เพื่อให้เขาย้ายออกไป แต่พี่สาวเขายังไม่ขาย ตนก็ห่วงความปลอดภัยของครอบครัว กลัวจะมาตายเพราะคนเสพยาไม่คุ้มเลย

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายวิทยา อายุ 50 ปี พี่ชายน.ส.เจี๊ยบ บอกว่าน้องสาวขี่รถจักรยานยนต์หนีไปอยู่บ้านหนองใสแล้ว ก่อนพาไปดูห้องนอนของน.ส.เจี๊ยบ ปรากฏว่ารกรุงรัง ภายในตู้มีมีดอยู่เป็น 10 เล่ม คาดว่าเป็นมีดที่น้องสาวเก็บไว้ในห้อง เพราะคิดว่าจะมีคนตามมาฆ่า

เก็บมีดไว้ในห้องนับ 10 เล่ม

นายวิทยา กล่าวว่า น้องสาวติดยาหนักมาก เมื่อวานเขาหลอนหนัก จะให้ตนพาไปแจ้งความตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ฐานที่มาจับเขา ตนก็บอกว่าจะไปแจ้งจับตำรวจไม่ได้ จากนั้นเขาก็โมโหและอาละวาดถือมีดจะวิ่งมาทำร้าย ตนก็ฮึดสู้ถือเหล็กไล่ เขาก็วิ่งไปบ้านยายน้อยให้ช่วย ตนก็งง ถือมีดจะมาฆ่าพี่แท้ๆ ยังหาว่าตนจะไปฆ่า

พี่ชายสาวคลั่งยา เล่าพฤติกรรมน้อง

นายวิทยา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้เขาอาละวาดมาแล้วหลายครั้ง เคยอาละวาดที่บ้านหนองขอนกว้าง ตำรวจมาจับไปและตรวจฉี่เป็นสีม่วง ตนก็เอากลับมารักษา น้องสาวติดยาเพราะสามีเก่ามีประวัติส่งยาและเอายาให้ภรรยาเสพ ก่อนเลิกรากันไป น้องสาวเคยมีสามีมาแล้ว 5 คน มีลูกมาแล้ว 5 คน ก็แบ่งให้สามีเก่าเลี้ยง แต่ยังมีลูกชายคนหนึ่งที่ยังอยู่ด้วยกัน เพิ่งจบ ม.3 เขาก็อยู่ดูแลแม่

นายวิทยา กล่าวอีกว่า หลานชายคงอายคนเพราะไม่คิดว่าแม่จะติดยาหนักขนาดนี้ เราก็ห่วงความรู้สึกของหลานชายด้วย ส่วนน้องสาวก็ยิ่งเป็นห่วง อยากจะเอาน้องไปบำบัดรักษา ไม่งั้นหากหลอนยามากกว่านี้ กลัวไปคบกับกลุ่มคนเสพยา กลัวจะมีเรื่องถูกทำร้ายถูกรุมโทรมจะหนักกว่านี้แน่นอน… อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่