เมื่อพูดถึงความรู้วิชาคณิตศาสตร์ระดับชั้นประถมศึกษา หลายคนก็จะนึกถึงการบวก ลบ คูณ หาร ตัวเลข ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องเรียน อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันการคำนวณเบื้องต้นเหล่านั้น ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องยาก สำหรับเด็กนักเรียนอีกสมัยใหม่อีกต่อไป ครูจึงเพิ่มความยากขึ้นด้วยการให้ปัญหาการคิดวิเคราะห์ไปอีกระดับ
อย่างล่าสุด เว็บไซต์ต่างประเทศ soha ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของมีผู้ปกครองชาวจีนรายหนึ่งที่ทำการบ่นลงบนโซเชียลมีเดีย เล่าว่า ลูกของเขาเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษา ซึ่งครูประจำชั้นได้มีการเปิดเผยในกลุ่มผู้ปกครองว่า จากนักเรียนมากกว่า 40 คน มีนักเรียนเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ได้ คะแนนเต็ม ในแบบทดสอบทางวิชาคณิตศาสตร์
ซึ่งมีข้อสอบที่น่าสนใจคือโจทย์ที่ตั้งว่า ห้องเรียนมีหลอดไฟ 11 ดวง หลอดไฟปิดอยู่ 4 ดวง เหลือหลอดไฟในห้องเรียนกี่หลอด? และจากปัญหาที่ตั้งมาให้แก้แบบนี้ ดูเหมือนว่าเด็กแทบทุกคนใช้วิธีการคำนวณแบบปกติ คือ 11 – 4 = 7 ซึ่งมันดูเป็นโจทย์เลขที่ง่ายมากๆ เด็กๆ ก็ดูมั่นใจว่าทำถูก แต่แล้วคุณครูกลับบอกว่า คำตอบของพวกเขานั้นผิด ไม่เพียงแต่นักเรียนเท่านั้น แต่ผู้ปกครองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน
คุณครูจึงอธิบายว่า คำตอบที่ถูกต้องคือในห้องเรียนยังคงมีหลอดไฟเหลืออยู่ 11 หลอด คำถามคือมีหลอดไฟเหลืออยู่กี่หลอด? ไม่ใช่ถามว่าเหลือหลอดไฟที่เปิดอยู่กี่ดวงซะหน่อย เนื่องจากคำถามนี้ไม่ได้ตั้งมาเพียงเพื่อทดสอบความสามารถในการบวกและลบของนักเรียนทุกคนเท่านั้น นั่นจึงทำให้ ผู้ปกครองหลายคนจึงตระหนักว่าพวกเขาพลาดแล้วเหมือนกัน ที่ไม่ยอมอ่านโจทย์ข้อสอบอย่างละเอียด
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้ปกครองบางส่วน แสดงความคิดเห็นว่า ท้ายที่สุดแล้วนี่เป็นคำถามทางคณิตศาสตร์ หากชี้ให้เห็นว่านี่เป็นคำถามที่ใช้การคิดวิเคราะห์หรือท้าทายสมอง มันจะง่ายกว่าสำหรับนักเรียนที่จะหาคำตอบที่ถูกต้อง
