นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้ประกาศผลประโยชน์ตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพของผู้ประกันตน ประจำปี 2567 โดยผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพ จะได้รับเงินผลตอบแทนอยู่ที่อัตรา 2.81% ต่อปี
และผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2 และ 3 จะได้รับเงินผลตอบแทนอยู่ที่ 4.19% ต่อปี โดยประกาศผลตอบแทนเงินบำเหน็จชราภาพที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา มีผลบังคับใช้วันที่ 14 มี.ค. 68 เป็นเสมือนการประกาศให้ทราบถึงอัตราดอกเบี้ยที่ได้จากการลงทุนตามแผนการลงทุนประจำปี 2567 และรับรู้ผลตอบแทนเรียบร้อยแล้ว
เงื่อนไขผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ดังนี้
1. ผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ คือ ผู้สิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน และมีอายุครบ 55 ปี แต่จ่ายเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน ซึ่งเงินบำเหน็จชราภาพจะจ่ายให้ตามจำนวนเงินสมทบกรณีชราภาพและสงเคราะห์บุตรที่ได้นำส่งเข้ากองทุน
กรณีผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพและสงเคราะห์บุตร ต่ำกว่า 12 เดือน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบที่ผู้ประกันตนจ่ายเงินเข้ากองทุนเพียงส่วนเดียว ส่วนผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบ
กรณีชราภาพและสงเคราะห์บุตร ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะมีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเท่ากับจำนวนเงินสมทบกรณีชราภาพและสงเคราะห์บุตร ในส่วนที่ผู้ประกันตน และนายจ้าง จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุน พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดในแต่ละปี
2. ผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือกที่ 2 และ 3 ที่มีอายุ 60 ปี และสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ ดังนี้
ทางเลือกที่ 2 จะมีเงินออมกรณีบำเหน็จชราภาพ จากการนำส่งเงินสมทบเดือนละ 50 บาท บวกกับเงินออมเพิ่มตามความสมัครใจพร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดในแต่ละปี
ส่วนทางเลือกที่ 3 จะมีเงินออมกรณีบำเหน็จชราภาพ จากการนำส่งเงินสมทบเดือนละ 150 บาท บวกกับเงินออมเพิ่มตามความสมัครใจ พร้อมผลประโยชน์ตอบแทนตามที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดในแต่ละปี โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 ทางเลือก 2 และ 3 จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ เมื่อสิ้นสภาพการเป็นผู้ประกันตน และมีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
“ทั้งนี้ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร.1506 โทรฟรีตลอด 24 ชั่วโมง และดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.sso.go.th” เลขา สปส. กล่าว
