นายจุลพันธ์ กล่าวว่า โดยเร็วๆ นี้ จะมีการประชุมของคณะอนุกรรมการบริหารข้อมูลโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสรุปเรื่องการเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรอบใหม่ แล้วนำเสนอคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการ เพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ที่มีตนเป็นประธาน จากนั้นจะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป
ยืนยันว่า การเปิดลงทะเบียนโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2568 ทำได้แน่นอน” นายจุลพันธ์กล่าว
เบื้องต้นคาดจะมีผู้ลงทะเบียนกว่า 25 ล้านคน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
คนกลุ่มเดิม คือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรคนจน ปัจจุบันจำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ กระทรวงการคลัง จะนำรายชื่อไปคัดกรองอัตโนมัติ
ทั้งนี้ ได้มีการมอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ และศึกษาขั้นตอนการลงทะเบียนที่อำนวยความสะดวกให้กับประชาชน คุณสมบัติ รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
เกณฑ์คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ เบื้องต้นคาดว่าจะยังไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม ดังนี้
1.ลงทะเบียนรายบุคคล และตรวจสอบคุณสมบัติเป็นรายบุคคลและครอบครัว
2.ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย
3.อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
4.มีรายได้คนละไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี ภายในครอบครัว มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี
5.ทรัพย์สินทางการเงิน ได้แก่ เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้ต่าง ๆ ต้องไม่เกิน 100,000 บาทต่อคน ครอบครัวไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปีเช่นเดียวกัน
6.ต้องไม่มีกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดิน เกินจากเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด
7.ไม่มีบัตรเครดิต
8.ไม่มีวงเงินกู้บ้านตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป
9.วงเงินกู้ซื้อรถตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
10.ต้องไม่เป็นภิกษุ สามเณร ผู้ต้องขัง บุคคลที่อยู่ในสถานสงเคราะห์ ข้าราชการ พนักงานราชการ ผู้รับบำเหน็จรายเดือน ผู้รับบำนาญ ข้าราชการการเมือง รวมถึง สส. และ สว.
สิทธิประโยชน์ที่ได้รับ
ผู้ที่ผ่านการคัดกรองสิทธิจะได้รับวงเงินช่วยเหลือรวม 1,545 บาท/เดือน ดังนี้
วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 300 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน
วงเงินส่วนลดค่าก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน