นอกจากยากจนแล้วยังป่วยมีโรคประจำตัวที่ต้องไปหาหมอเป็นประจำ ด้วยการอาศัยรถของ อบต.บ้าง เพื่อนบ้านในชุมชนบ้าง ส่วนอาหารการกิน ถ้าวันไหนได้กินครบ 3 มื้อถือว่าโชคดี เพื่อนบ้านในชุมชน อบต.ช่วยให้อาหารเป็นครั้งคราวผู้สูงอายุกลุ่มนี้ไม่มีรายได้จากการประกอบอาชีพแล้ว เงินประทังชีวิตอาศัยเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ (600-800 บาทต่อเดือน) บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนละ 300 บาท ถ้าผู้สูงอายุพิการด้วยจะได้เบี้ยคนพิการ 800 บาทต่อเดือน สรุปเงินสวัสดิการที่ได้รับ 900-1,100 บาทต่อเดือนที่ไม่เพียงพอกับการยังชีพ คือค่าอาหาร ค่าน้ำ-ไฟ ค่ายารักษาโรคที่ต้องซื้อเอง
เงิน 2,000 บาทนี้ ผู้สูงอายุยากจนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เงินก้อนนี้ช่วยให้มีข้าวกินทุกวัน จ่ายค่าน้ำค่าไฟและค่าเช่าบ้านได้ ขอขอบคุณกระทรวง พม.จริงๆ ที่ทำให้ชีวิตพอมีความสุขบ้าง
ข้อเท็จจริงพบว่าจำนวนผู้สูงอายุยากจนอีกหลายหมื่นคนที่ต้องการเงิน “ครอบครัวอุปถัมภ์” เพื่อการมีชีวิตให้อยู่รอดต่อไปได้ แต่รัฐบาลยังคงจัดสรรงบประมาณสำหรับครอบครัวอุปถัมภ์ได้เพียง 1,000 เศษๆ ต่อปีเท่านั้น
อีกไม่นานกระทรวง พม. และข้าราชการคงจะต้องจัดทอดผ้าป่าหาทุนสมทบ“ครอบครัวอุปถัมภ์”เพื่อช่วยผู้สูงอายุจำนวนมากขึ้นให้พอจะมีชีวิตที่ไม่หิวและยังคงมีบ้านที่ซุกหัวนอนได้ ถึงวันนั้นของทุกท่านช่วยกันทำบุญกับผู้สูงอายุยากจนด้วย