บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนมีนาคม 2568 จะได้รับสิทธิ ดังนี้
วันที่ 1 มีนาคม 2568
เด้งที่ 1 วงเงินซื้อสินค้า 300 บาทต่อคนต่อเดือน
เด้งที่ 2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน
เด้งที่ 3 วงเงินค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ 750 บาทต่อคนต่อเดือน (ประกอบด้วย บขส. รถไฟ ขสมก. รถไฟฟ้า และรถโดยสารเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ)
ส่วนลดค่าไฟ-ค่าน้ำประปา สำหรับผู้ที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2566 เป็นต้นไป กรมบัญชีกลาง โอนจ่ายตรงให้ผู้บริการ
เด้งที่ 4 ส่วนลดค่าไฟฟ้า จำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
เด้งที่ 5 ส่วนลดค่าน้ำประปา จำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน
เด้งที่ 6 เงินเพิ่มเบี้ยความพิการ 200 บาทต่อเดือน สำหรับผู้มีสิทธิที่เป็นคนพิการ ซึ่งมีบัตรประจำตัวคนพิการและได้รับเบี้ยความพิการ 800 บาทต่อเดือน ที่ยืนยันตัวตน 27 พ.ย. – 26 ธ.ค. 67 จะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง (โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของผู้มีสิทธิหรือบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้มีสิทธิหรือผู้รับมอบอำนาจที่ใช้รับเงินเบี้ยความพิการ 800 บาท)
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 เปิดลงทะเบียนรายใหม่
บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2568 กรณีเตรียมเปิดลงทะเบียนรายใหม่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม ได้หารือทบทวนเกณฑ์เปิดลงทะเบียน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รอบใหม่ โดยเบื้องต้น จะตรวจสอบสิทธิ์ 14.5 ล้านคนว่ายังอยู่ตามเกณฑ์หรือไม่ พร้อมจะเปิดลงทะเบียนกลุ่มใหม่ อาจมีประมาณ 10 ล้านคน
รวมถึงการดูเกณฑ์ที่ดิน บางคนมีที่ดินเยอะ ใช่ว่าจะเป็นคนรวย พิจารณาสินทรัพย์ที่ถือครอง รวมถึงดูการใช้เงินของผู้มีสิทธิที่ผ่านมา ทั้งการซื้อของร้านธงฟ้า ค่าก๊าซ ค่าเดินทางรถเมล์รถไฟฟ้า เพราะพบว่า มีภาระค่าใช่จ่ายงบประมาณที่รัฐจ่ายให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 6 หมื่นล้านบาทต่อเดือน แต่มีการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรไม่ได้ใช้สิทธิหมดทุกคน เช่น ค่าก๊าซใช้เพียง 40 %
ซึ่งนายจุลพันธ์ ยืนยันว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐรายเดิม หากผ่านตามเกณฑ์คุณสมบัติใหม่ ก็ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพราะจะได้รับสิทธิโดยอัตโนมัติ