4 ผลไม้น้ำตาลต่ำ (แต่ยังหวาน) ควรมีติดบ้าน ผู้ป่วยเบาหวานทานได้

การรวมผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำเข้าไปในมื้ออาหารของคุณสามารถช่วยรักษาระดับพลังงาน และยังให้สารอาหาร ไฟเบอร์ และสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย” คริส มอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและโภชนาการจาก Fortune Recommends Health กล่าว “ผลไม้เหล่านี้มักจะมีแคลอรี่ต่ำ ซึ่งเหมาะสำหรับทุกคนที่พยายามควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงของโรคอ้วนและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง”

ไฟเบอร์เป็นกุญแจสำคัญของอาหารที่สมดุล และ “ไฟเบอร์ในผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำยังช่วยชะลอการย่อยอาหารและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรต ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป” แคสซานดรา พาดูลา เบิร์ก นักโภชนาการจดทะเบียน โค้ชไตรกอลอน และเจ้าของ Catalyst Performance Lab กล่าว

4 ผลไม้น้ำตาลต่ำ (แต่ยังหวาน)

1.ผลไม้ตระกูลเบอร์รี

ผลไม้ตระกูลเบอร์รีเหล่านี้มีน้ำตาลต่ำ อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญที่ร่างกายต้องการ และสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารเช้าและของว่างได้ “เบอร์รี่หนึ่งถ้วยมีน้ำตาลประมาณ 5-7 กรัม ทำให้เป็นตัวเลือกที่มีไฟเบอร์สูง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้” เบิร์กกล่าว นอกจากนี้ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ยังอุดมไปด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ มอร์อธิบายว่า “ตัวอย่างเช่น สตรอว์เบอร์รีเป็นแหล่งวิตามินซีและแมงกานีสที่ดีเยี่ยม และบลูเบอร์รี่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องสารต้านอนุมูลอิสระและไฟเบอร์ ซึ่งอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจ

2.กีวี

“กีวีหนึ่งผลมีน้ำตาลประมาณ 6 กรัม และเข้ากันได้ดีกับผลไม้ตระกูลเบอร์รี (โดยเฉพาะสตรอว์เบอร์รี)” เบิร์กอธิบาย นอกจากนี้ กียียังอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ เช่น “วิตามินซี วิตามินเค และโฟเลต ซึ่งช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สุขภาพกระดูก สุขภาพผิว และการเจริญเติบโตของเซลล์” เธอกล่าว

กีวีเป็นแหล่งไฟเบอร์ที่ดีเยี่ยมโดยมีไฟเบอร์ 3 กรัมต่อผลซึ่งมอร์กล่าวว่าเหมาะสำหรับระบบย่อยอาหาร นอกจากนี้ “กีวียังมีเอนไซม์ย่อยอาหารที่เรียกว่า แอคทินิดิน ซึ่งช่วยย่อยโปรตีน” เขากล่าวเสริม

3.ลูกพีช

“ลูกพีชขนาดเล็ก (เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2.5 นิ้ว) มีน้ำตาลประมาณ 6 กรัม ทำให้เป็นตัวเลือกผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี” เบิร์กกล่าว “นอกจากนี้ ลูกพีชยังมีวิตามินเอ วิตามินซี และโพแทสเซียม ซึ่งช่วยบำรุงสายตา เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และสุขภาพหัวใจโดยควบคุมความดันโลหิต”

4.อะโวคาโด

แม้ว่าหลายคนจะเข้าใจผิดว่าอะโวคาโดเป็นผัก แต่จริงๆ แล้วอะโวคาโดเป็นผลไม้ และยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำอีกด้วย ทำให้อะโวคาโดเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน “อะโวคาโดหนึ่งผลมีน้ำตาลประมาณหนึ่งกรัม อุดมไปด้วยไขมันดี และอุดมด้วยไฟเบอร์ รวมถึงวิตามินอี ซี และบี6” มอร์กล่าว ไขมันในอะโวคาโดช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมันชนิดอื่นๆ ทำให้อะโวคาโดเป็นส่วนผสมที่หลากหลายในการปรุงอาหาร