หนุ่มอายุแค่ 30 เป็นมะเร็งตับอ่อน ทั้งที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ต้นตอคือ “เมนูโปรด” ที่หลายคนชอบกิน
มะเร็งตับอ่อนเป็นมะเร็งที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงและแพร่กระจายได้รวดเร็ว โดยทั่วไปผู้ป่วยมักเกิดจากการสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานกรณีของนายจ้าวเหล่ย ชายชาวจีนวัย 30 ปี ซึ่งป่วยเป็นมะเร็งชนิดนี้ทั้งที่เขาไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ โดยก่อนจะได้รับการวินิจฉัยราว 6 เดือน เขามีอาการปวดท้องบ่อยครั้ง จากการตรวจสอบประวัติทางการแพทย์พบว่าเขามีภาวะไขมันพอกตับ ตับอ่อนอักเสบเรื้อรัง และนิ่วในท่อตับอ่อน
สาเหตุจากการบริโภคอาหารมัน
แพทย์พบว่านายจ้าวเหล่ยไม่มีประวัติครอบครัวที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ และไม่ได้สัมผัสกับสารเคมี แต่เขาชอบอาหารมันและทอด เช่น หมูตุ๋น ไก่ทอด เนื้อย่าง และทุเรียน และมักกินในปริมาณมากเพื่อคลายเครียด นิสัยการกินเช่นนี้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดโรค
แพทย์อธิบายว่าตับอ่อนเป็นอวัยวะสำคัญในการย่อยอาหาร โดยน้ำย่อยในตับอ่อนมีเอนไซม์ที่ช่วยย่อยโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรต การกินอาหารมันมากเกินไปจะกระตุ้นการหลั่งน้ำย่อยในปริมาณมาก ทำให้ความดันในท่อตับอ่อนเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เนื้อเยื่ออักเสบและกลายเป็นมะเร็งในระยะยาว
วิธีป้องกันมะเร็งตับอ่อน
- ควบคุมเบาหวานและโรคเมตาบอลิก เบาหวานชนิดที่ 2 และปัญหาเมตาบอลิกเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งตับอ่อน ควรรักษาระดับน้ำตาลในเลือดด้วยการออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่เหมาะสม
- ปรับเปลี่ยนนิสัยการกิน ลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและน้ำตาล เช่น อาหารจานด่วน ขนมหวาน และเนื้อแดง เพิ่มการบริโภคผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงมะเร็ง
- รักษาน้ำหนักตัวให้เหมาะสม โรคอ้วนเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยง ควรควบคุมน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายและรับประทานอาหารอย่างสมดุล
- ความเครียดสะสม ความเครียดเรื้อรังเพิ่มระดับฮอร์โมนคอร์ติซอล ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพิ่มโอกาสที่เซลล์มะเร็งจะแพร่กระจาย
- กินอาหารหวานและมันมากเกินไป การกินน้ำตาลและไขมันในปริมาณมากโดยเฉพาะมื้อดึก ทำให้ตับอ่อนทำงานหนักและเสี่ยงต่อการอักเสบเรื้อรัง
- ละเลยการตรวจสุขภาพ การไม่ตรวจสุขภาพเป็นประจำทำให้พลาดโอกาสในการตรวจพบมะเร็งระยะแรก ซึ่งอาการเริ่มต้นของมะเร็งตับอ่อนมักไม่ชัดเจน การตรวจสุขภาพช่วยเพิ่มโอกาสการรักษาให้สำเร็จ