อาการ”เจ๊พัช”เครียด กินข้าวไม่ได้กินได้แต่กาแฟ

อาการ\"เจ๊พัช\"เครียด กินข้าวไม่ได้กินได้แต่กาแฟต่อมาเวลาประมาณเที่ยงครึ่ง ชายคนดังกล่าวได้ออกมาคุยโทรศัพท์ข้างนอกก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วกลับเข้าไปในห้องควบคุมตัวอีกรอบ ทำแบบนี้ประมาณ 2 ครั้ง ซึ่งจากที่สังเกตเห็นว่าชายคนดังกล่าวมีสีหน้าที่เคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่หลังจากนั้นจะพบว่ามีผู้หญิงอีกคนหนึ่งได้เดินเข้าไปในอาคารแล้วไปคุยกับชายคนดังกล่าว เป็นเวลาประมาณ 5 นาทีเศษ โดยทั้งคู่พยายามที่จะหลบมุมผู้สื่อข่าวคุยบริเวณหลังฉาก ก่อนจะติดต่อกับตำรวจเพื่อขอเข้าไปในห้องควบคุมตัวอีกครั้ง 

อาการ\"เจ๊พัช\"เครียด กินข้าวไม่ได้กินได้แต่กาแฟกระทั่งชายคนดังกล่าวได้เดินออกมาจากห้องควบคุมตัว โดยพยายามที่จะเดินหนีการพูดคุยกับสื่อมวลชน บรรดาสื่อมวลชนจึงวิ่งเข้าไปสอบถามพูดคุยกับชายคนดังกล่าวถึงการมาเยี่ยม น.ส.กฤษอนงค์ ชายคนดังกล่าวระบุเพียงแค่ว่า “พี่พัชยังโอเคอยู่ครับ”

ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามต่อไปว่า เจ๊พัชมีอาการเครียดไหม ชายคนดังกล่าวบอกว่า “เครียดนิดหน่อยครับ”  ส่วนประเด็นที่ว่า มีการพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียดการต่อสู้หรือไม่ ชายคนดังกล่าวบอกเพียงแค่ว่า ไม่ใช่ ตนมาเยี่ยมเฉยๆ

พร้อมกับกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ตนไม่ใช่ทนายความ จึงไม่ทราบเรื่องการต่อสู้และการประกันตัว พี่พัชไม่ได้ฝากข้อความอะไร ตนแค่มาเยี่ยมเท่านั้น ปกติพี่พัชกินแต่กาแฟเลยเอากาแฟมาเยี่ยม ไม่ได้มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษและพี่พัชกินข้าวไม่ได้

อาการ\"เจ๊พัช\"เครียด กินข้าวไม่ได้กินได้แต่กาแฟ

เมื่อผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่าแล้วชายคนดังกล่าวมีความสัมพันธ์อะไรกับเจ๊พัช ชายคนนั้นบอกเพียงแค่ว่าตนแค่มาเยี่ยมพี่พัชเฉย ๆ และปฏิเสธว่ามีความสัมพันธ์แบบญาติ  ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวยังได้ถามอีกว่า ในขณะที่จับกุมที่บ้านพัก ชายคนดังกล่าวทราบเรื่องหรือไม่และทำไมชายคนดังกล่าวถึงอยู่ที่บ้านขณะจับกุม ชายคนดังกล่าวบอกเพียงแค่ว่า “ครับ แค่นี้นะครับ” ก่อนจะเดินหนีวงนักข่าวออกไป

ส่วนผู้หญิงคนที่มาเยี่ยมเจ๊พัชในตอนหลังนั้น ปรากฏว่าได้แยกตัวออกไปในขณะที่กำลังถูกสัมภาษณ์  ระหว่างที่ชายคนดังกล่าวได้เดินออกมานั้น พบว่าได้ถือถุงกล่องข้าว 2 กล่อง ซึ่งเป็นข้าวกล่องที่ทางตำรวจได้สั่งเอาไว้เป็นมื้อเช้าและมื้อเที่ยง