เว็บไซต์ LADbible รายงานเรื่องราวของ คฤหาสน์ลอยฟ้า มูลค่า 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 658 ล้านบาท) ที่เจ้าของยังไม่มีโอกาสได้เข้าอยู่อาศัยจริง ๆ

ย้อนกลับไปในปี 2010 นักธุรกิจ วิเจย์ มาลยา ได้สร้างคฤหาสน์สุดหรูบนยอดตึกคิงฟิชเชอร์ ทาวเวอร์ ในยูบี ซิตี้ เมืองเบงกาลูรู ประเทศอินเดีย

บ้านสุดพิเศษหลังนี้ถูกสร้างขึ้นให้เหมือนทำเนียบขาว โดยมีสระว่ายน้ำไร้ขอบ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์ และสวนสวยขนาดใหญ่ คฤหาสน์นี้ตั้งอยู่สูงถึง 400 ฟุตจากพื้นดิน แยกเป็นส่วนตัวจากอพาร์ตเมนต์ด้านล่าง และมีพื้นที่กว้างถึง 40,000 ตารางฟุต

แต่เรื่องกลับพลิกผันอย่างคาดไม่ถึง เมื่อมาลยายังไม่มีโอกาสได้เข้าอยู่อาศัยในคฤหาสน์สุดหรูมูลค่า 15 ล้านปอนด์แห่งนี้

 อน มาลยาได้หลบหนีจากอินเดียไปยังสหราชอาณาจักร หลังจากผิดนัดชำระหนี้ที่มีมูลค่ามากกว่า 842 ล้านปอนด์ (ประมาณ 36,932 ล้านบาท) และต้องเผชิญกับข้อกล่าวหาหลายข้อ รวมถึงการฉ้อโกง

เมื่อปีที่ผ่านมา ทอม ทูเกนธัต รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงของสหราชอาณาจักร ถูกถามถึงการส่งตัวมาลยากลับอินเดีย ซึ่งเขากล่าวว่าสหราชอาณาจักรไม่ต้องการเป็นสถานที่ที่ผู้คนสามารถหลีกเลี่ยงกระบวนการยุติธรรมได้

ทูเกนธัต กล่าวกับสำนักข่าว Press Trust of India ว่า “ทั้งสองประเทศ (สหราชอาณาจักรและอินเดีย) มีกระบวนการทางกฎหมายที่ต้องดำเนินไป แต่รัฐบาลสหราชอาณาจักรชัดเจนว่า เราไม่ต้องการเป็นที่หลบซ่อนของผู้ที่ต้องการหลบหนีการยุติธรรม”

ในขณะเดียวกัน คฤหาสน์ลอยฟ้ายังคงว่างเปล่า โดยมีข่าวลือว่ามาลยาไม่เคยเหยียบเข้าไปในคฤหาสน์หลังนั้นเลย

อิรฟาน ราซัค ประธานบริษัท Prestige Estates Projects ซึ่งร่วมพัฒนาตึกนี้ กล่าวว่า “การสร้างคฤหาสน์บนอาคารขนาดใหญ่ที่ระดับความสูงนี้เป็นความท้าทาย แต่เราได้ทำตามแบบที่วางไว้ทุกประการ”

แม้คฤหาสน์จะยังคงว่างเปล่า แต่ผู้คนมักชื่นชมโครงสร้างสุดอลังการนี้

ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็นออนไลน์ว่า “นี่เป็นหนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ที่ดีที่สุดในประเทศ มีโรงแรมหรูราคาสูง ที่พักอาศัยระดับพรีเมียมแห่งหนึ่งของเมือง ศูนย์การค้าสุดหรูที่มีเพียงแห่งเดียว และเพนท์เฮาส์หรูเป็นจุดสูงสุด ตั้งอยู่ใกล้ใจกลางเมือง”

ชาวเน็ตอีกคนกล่าวว่า “คฤหาสน์มูลค่า 20 ล้านดอลลาร์บนยอดตึกคิงฟิชเชอร์ ทาวเวอร์ ในเบงกาลูรู ช่างน่าทึ่งจริงๆ เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตหรูหราในเมืองใหญ่ของอินเดีย”

ส่วนอีกคนหนึ่งกล่าวเสริมว่า “ว้าว ชีวิตที่สูงส่งสมชื่อ! มีทางเดียวที่จะไปจากตรงนี้ก็คือขึ้น… ขึ้นไปอีก!”