เลือดเย็นเกิน เก๋งชนคนแก่ขี่จักรยาน ศพติดหน้ารถ คนขับลงมาดึงร่างทิ้งข้างทาง แล้วหนีไป
วันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 พ.ต.ต.ปรเมษฐ์ ชาตรี สารวัตรสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.ชนแดน อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุว่า มีคนนอนเสียชีวิตอยู่ในซอยบ้านตะกุดจั่น บนเส้นทางหลวงหมายเลข 113 ถนนสายชนแดน – ดงขุย ต.ท่าข้าม อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลชนแดน กู้ชีพเทศบาลตำบลท่าข้าม และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดชนแดน ร่วมอำนวยความสะดวก
ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานสีชมพู ถูกเฉี่ยวชนสภาพพังยับเยินไม่มีชิ้นดี ตกอยู่ข้างทาง ห่างจากถนนประมาณ 500 เมตร ซึ่งเป็นซอยในหมู่บ้าน ริมรั้วบ้านเป็นปูน พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นชาย สวมเสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ นอนหงายอยู่กับพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมด้วย แพทย์เวรโรงพยาบาลชนแดน ร่วมทำการชันสูตรพลิกศพ พบว่าผู้ตายมีบาดแผลที่บริเวณขาขวา และข้อเท้าซ้ายหัก หัวไหล่ขวาหัก และบริเวณหลังศีรษะ บริเวณด้านขวากะโหลกศีรษะยุบ เหมือนถูกกระแทกมาอย่างแรง บริเวณหน้าผากด้านซ้าย มีรอยเลือดไหลออกมาเป็นทาง ทราบชื่อต่อมาคือนายสวัสดิ์ อายุ 68 ปี โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ.2567 ช่วงเวลาประมาณ 22.30 น.ที่ผ่านมา
ต่อมา นายใส อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านที่พบร่างผู้เสียชีวิต ได้เปิดกล้องวงจรปิดดูพบว่า ได้มีรถเก๋งสีบรอนซ์ทอง ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียน วิ่งมาจอดบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นมีชายสูงอายุ เดินลงจากรถเพื่อมาดึงร่างผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่บนฝากระโปรงหน้ารถลง เอานอนไว้ข้างประตูรั้ว แล้วก็ขับรถออกไป
จากการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่า ในคืนดังกล่าวผู้ตายได้ปั่นรถจักรยานออกจากบ้านลัดเลาะมาตามถนน ไม่ทราบว่าจะไปไหน เนื่องจากมีอาการหลงๆ ลืมๆ อาจจำทางกลับบ้านไม่ได้ เมื่อถึงที่เกิดเหตุ อาจจะโดนรถเก๋งคันดังกล่าว ชนทางด้านหลังแล้วศพกระเด็นขึ้นไปติดด้านหน้าของรถ เจ้าของรถ จึงนำศพมาทิ้งบริเวณในซอยหมู่บ้านที่พบศพ
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนแดน ได้ทำการติดตามรถที่ก่อเหตุ ตามกล้องวงจรปิดต่างๆ จนพบรถต้องสงสัย ยี่ห้อ ฮอนด้าซีวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน 1791 โดยสภาพรถ กันชนด้านหน้าซ้ายยุบ กระจกด้านหน้าแตก ภายในกระจกคาดว่าเป็น เส้นผมของผู้ตายติดอยู่ และประตูทางด้านซ้ายมีคราบเลือดติดอยู่ โดยรถจอดอยู่ที่บ้านของนายชาญชัย อายุ 74 ปี โดยนายชาญชัย ปฎิเสธว่า ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ โดยอ้างว่าคืนดังกล่าว ตนไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน ส่วนสภาพรถนั้นให้การว่า ได้เกิดอุบัติเหตุมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดรถคันดังกล่าว เพื่อนำไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริง